การปลูกพืชในวัสดุปลูกแทนดิน
(Substrate
Culture System)
- ดิน โดยนิยามทั่วไปจะหมายถึง
วัตถุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการสลายตัวทางกายภาพ
และทางเคมีของหินและแร่รวมกับสารอินทรีย์
ที่เกิดจากการสลายตัวของซากพืชซากสัตว์เป็นผิวชั้นบนที่หุ้มห่อโลก
ซึ่งดินจะมีลักษณะและคุณสมบัติต่างกันไปในที่ต่างๆ ตามสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศ
วัตถุต้นกำเนิด สิ่งมีชีวิตและระยะเวลาการสร้างตัวของดิน องค์ประกอบของดิน คือ
แร่ธาตุ 45%
อากาศ 25% และ
น้ำ 25%
- การปลูกพืชในดินซ้ำๆเป็นเวลานานๆ
โดยไม่ปล่อยให้มีการพักหรือปรับสภาพที่เหมาะสมมีผลให้ดินขาดธาตุอาหาร การสะสมตัวของสารเคมี
ดิน เป็นกรดหรือด่างมากเกินไป ทำให้เกิดโรคพืชต่างๆ
อันมีผลให้ผลผลิตเกษตรเกิดความเสียหาย
อีกทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในลักษณะปริมาณน้ำฝนที่น้อยลงกว่าปกติ
หรือน้ำฝนมากเกินจนกระทั่งท่วมขัง และฤดูกาลที่เพี้ยนเปลี่ยนไปจากกว่าปกติ
มีผลให้เกิดแมลงและโรคที่มากขึ้น
การปลูกพืชในวัสดุปลูกแทนดิน (Soilless
Culture media)
คือการปลูกพืชในวัสดุอื่นๆ แทน โดยวัสดุในที่นี้หมายถึงทั้งที่เป็นอินทรีย์สารและอนินทรีย์สาร
ที่จะต้องไม่มีธาตุอาหารพืชสะสมอยู่
การปลูกพืชลงในวัสดุปลูกแบบนี้เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินที่มีลักษณะใกล้เคียงกับการปลูกพืชในดินแบบกระถางหรือในภาชนะโดยใช้น้ำหยดมากที่สุด
แต่จะแตกต่างกันตรงที่ถ้าปลูกลงในดินพืชจะได้รับอาหารที่มีอยู่แล้วในดินหรือจากปุ๋ยที่ใส่ให้แต่ละครั้ง
และได้รับน้ำจากการให้น้ำแบบน้ำหยด
ส่วนถ้าเป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินแบบใช้วัสดุปลูกนั้น
พืชจะได้รับธาตุอาหารไปพร้อมๆ กับการให้น้ำหยด
เพราะน้ำที่ให้เป็นน้ำสารละลายธาตุอาหารในแบบของการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินนั่นเอง
หัวใจสําคัญของวิธีการปลูกพืชในวัสดุปลูกคือการให้สารละลายธาตุอาหารในปริมาณและความถี่ที่พอเหมาะกับความต้องการของพืชในแต่ละช่วงอายุการเจริญเติบโต
และยังต้องมีวิธีการวางระบบระบายน้ำส่วนเกินออกจากวัสดุปลูกด้วยกัน
-
อินทรีย์สสาร (ORGANIC
Soilless Culture)
วัสดุธรรมชาติหาได้ง่ายในท้องถิ่นมีราคาถูก
แต่ข้อเสียคือ
มักมีคุณสมบัติในการอมน้ำและระบายอากาศที่ยังไม่สมดุลย์กันภายในวัสดุตัวเดียว
- พีทมอส (Peat Moss)
- มะพร้าวสับ (Shredded coconut)
- แกลบดิบ (Rice Hulls)
- ฟางข้าว (Rice Straw)
- เปลือกถั่ว (Nut shell)
- ชานอ้อย (Bagasse)
- เปลือกไม้ชิ้นเล็กshredded bark)
- ขี้กบ (wood shavings)
-
อนินทรีย์สสาร
(INORGANIC
Soilless Culture) คุณสมบัติที่รวนโปร่งและเบา
จึงมีอากาศแทรกอยู่เพียงพอต่อความต้องการของรากพืชและมีคุณสมบัติอุ้มความชื้นตั้งแต่น้อยจนถึงดีมาก
ข้อดีอีกประการหนึ่งของวัสดุประเภทอนินทรีย์สารคือ มีความสะอาด
ปราศจากเชื้อโรคปนเปื้อน และคงทนไม่สลายตัว หรือยุบตัวง่าย
- เวอร์มิคิวไลท์ (Vermiculite)
- เพอร์ไลท์ (Perlite)
- หินภูเขาไฟ (Pumice)
- ใยหิน (Rockwool)
- ดินเผา (Calcined Clay)
- กรวด (Gravel)
- ทรายหยาบ (Sand)